สรุปเนื้อหาจากการเข้าร่วมอบรม หัวข้อเรื่อง Stream Trend and Sentiment Following
Quote from duangnapa sukhahuta on กันยายน 17, 2025, 09:29
สรุปเนื้อหาจากการเข้าร่วมอบรม
หัวข้อเรื่อง Stream Trend and Sentiment Following
13-14 กันยายน 2568 ณ ABL Trading Research Center เชียงใหม่ ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. (จำนวน 16 ชั่วโมงทำการ)
เนื้อหาในการอบรม
วันที่ 13 14 กันยายน 2568 หัวข้อ Momentum Analysis ในหุ้นสามัญ Momentum analysis (โมเมนตัม วิเคราะห์) คือ การวิเคราะห์เพื่อหาความแข็งแกร่งของแนวโน้มราคาในตลาดการเงิน โดยดูว่าราคาของสินทรัพย์มีการเคลื่อนไหว ขาขึ้น หรือ ขาลง และ กำลังเร่งขึ้น หรือ ชะลอตัวลง เพื่อใช้ประโยชน์จากความต่อเนื่องของแนวโน้มนั้น ดังนั้นตั้งสมมุติฐานว่าปรากฏการณ์ของสินทรัพย์ ที่เคยมีผลตอบแทนที่ดีในอดีตนั้นสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีในช่วงเวลาต่อไปเช่นกัน ในกรณีกลับกันสินทรัพย์ที่มีมูลค่าลดลงในอดีตนั้นจะมีมูลค่าลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาต่อไป
แนวคิดหลัก: ความต่อเนื่องของแนวโน้ม: กลยุทธ์นี้ตั้งอยู่บนสมมติฐานที่ว่าสินทรัพย์ที่มีผลงานดีในอดีตมีแนวโน้มที่จะทำผลงานดีต่อไป
การหาโอกาสทำกำไร: นักลงทุนจะพยายามทำกำไรจากโมเมนตัมของสินทรัพย์ที่กำลังมีทิศทางการเคลื่อนไหวที่แข็งแกร่ง
การทำงาน: นักวิเคราะห์จะใช้ เครื่องมือวิเคราะห์โมเมนตัม (Momentum Indicators) เช่น RSI, MACD หรือ Stochastic Oscillator เพื่อประเมินว่าราคาของสินทรัพย์มีแนวโน้มที่จะเร่งตัวขึ้นหรือลดลง
ค่าโมเมนตัมที่มากกว่า 100: บ่งชี้ว่าราคาปิดของแท่งเทียนปัจจุบันสูงกว่าแท่งเทียนในอดีต ซึ่งหมายถึงแนวโน้มขาขึ้น
ค่าโมเมนตัมที่น้อยกว่า 100: บ่งชี้ว่าราคาปิดต่ำกว่าแท่งเทียนในอดีต แสดงถึงแนวโน้มขาลง
สรุปง่ายๆ: Momentum analysis คือการดูว่าตลาดกำลัง "ไปเร็ว" หรือ "ช้าลง" ในทิศทางใด เพื่อเข้าซื้อหรือขายตามกระแสที่กำลังแข็งแกร่ง
กลยุทธ์ การใช้ momentum ที่สำคัญได้แก่
- กลยุทธ์ Price Momentum : ซื้อหุ้นที่มีผลตอบแทน 6 เดือนย้อนหลังสูงสุด 30 เปอร์เซ็นไทล์แรก โดยมีการปรับพอร์ตโฟลิโอทุกๆ 6 เดือน โดยแนวคิดหลักของกลยุทธ์การลงทุนนี้คือการคำนวนค่า Momentum ของหุ้นแต่ละตัวในเชิงเปรียบเทียบหรือที่เรียกว่า Relative Momentum และเลือกลงทุนในกลุ่มหุ้นที่มีผลตอบแทนย้อนหลังสูงสุด
- กลยุทธ์ Industry Momentum : ซื้อหุ้นที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีสูงสุด 30 เปอร์เซ็นไทล์แรก (ในกรณีตลาดหุ้นไทยเรามีกลุ่มอุตสาหกรรมทั้งหมด 8 กลุ่มตามการแบ่งของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย) โดยมีการปรับพอร์ตโฟลิโอทุกๆ 1 ปี ซึ่งแนวคิดนี้คือการคำนวนค่า Momentum ในเชิงเปรียบเทียบตามกลุ่มอุตสาหกรรม (Relative Industry Momentum) และเลือกลงทุนเฉพาะหุ้นที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีผลตอบแทนย้อนหลังสูงสุด
- กลยุทธ์ 52 Week High : ซื้อหุ้นที่ราคา 1 เดือนก่อนหน้านี้ใกล้เคียงราคาสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ที่ผ่านมามากที่สุดโดยมีการปรับพอร์ตโฟลิโอทุกๆ 1 ปี โดยแนวคิดของกลยุทธ์นี้คือการยึดระยะทางจากจุดสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ของหุ้นแต่ละตัวเป็นตัวชี้วัด Momentum หรือที่เรียกว่า Absolute Momentum และเลือกลงทุนในหุ้นที่ราคาอยู่ใกล้จุดสูงสุด 52 สัปดาห์ของปีที่ผ่านมามากที่สุด
เมื่อศึกษาหลักการแล้ว จึงทำการเรียนรู้การใช้งานระบบ efin StockPickUp
เป็นโปรแกรมที่ใช้งานบนคอมพิวเตอร์ (PC) สำหรับช่วยวิเคราะห์ด้านการลงทุนในตลาดหุ้นและอนุพันธ์ โดยมีฟังชั่นที่สำคัญดังนี้ การวิเคราะห์ด้วยกราฟเทคนิค ซึ่งมี Indicator มากกว่า 130 ชนิดรวมถึงมี Indicator การนำข้อมูลด้านปัจจัยพื้นฐานมานำเสนอในรูปแบบที่หลากหลาย รวมไปถึงนำไปประยุกต์กับเครื่องมือค้นหาหุ้น ที่จะช่วยให้นักลงทุน ค้นหาหุ้นที่ต้องการ ใช้ได้ไม่ยากทั้งหุ้นที่ควรซื้อ และ หุ้นที่ควรขาย
การนำข้อมูลสถิติด้านการซื้อขายที่เกิดขึ้นมาสร้างเป็นฟังก์ชั่นที่ช่วยให้แง่คิดในมุมต่างๆ ทั้งการเก็งกำไร หรือ การลงทุนระยะยาว
การใช้โปรแกรม efin StockPickUp ทำให้สามารถวิเคราะห์ทางเทคนิค เพื่อกำหนดหาหุ้นที่มีค่า momentum มากและกำหนดหาหุ้นที่เหมาะสมได้
สรุปเนื้อหาจากการเข้าร่วมอบรม
หัวข้อเรื่อง Stream Trend and Sentiment Following
13-14 กันยายน 2568 ณ ABL Trading Research Center เชียงใหม่ ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. (จำนวน 16 ชั่วโมงทำการ)
เนื้อหาในการอบรม
วันที่ 13 14 กันยายน 2568 หัวข้อ Momentum Analysis ในหุ้นสามัญ Momentum analysis (โมเมนตัม วิเคราะห์) คือ การวิเคราะห์เพื่อหาความแข็งแกร่งของแนวโน้มราคาในตลาดการเงิน โดยดูว่าราคาของสินทรัพย์มีการเคลื่อนไหว ขาขึ้น หรือ ขาลง และ กำลังเร่งขึ้น หรือ ชะลอตัวลง เพื่อใช้ประโยชน์จากความต่อเนื่องของแนวโน้มนั้น ดังนั้นตั้งสมมุติฐานว่าปรากฏการณ์ของสินทรัพย์ ที่เคยมีผลตอบแทนที่ดีในอดีตนั้นสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีในช่วงเวลาต่อไปเช่นกัน ในกรณีกลับกันสินทรัพย์ที่มีมูลค่าลดลงในอดีตนั้นจะมีมูลค่าลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาต่อไป
แนวคิดหลัก: ความต่อเนื่องของแนวโน้ม: กลยุทธ์นี้ตั้งอยู่บนสมมติฐานที่ว่าสินทรัพย์ที่มีผลงานดีในอดีตมีแนวโน้มที่จะทำผลงานดีต่อไป
การหาโอกาสทำกำไร: นักลงทุนจะพยายามทำกำไรจากโมเมนตัมของสินทรัพย์ที่กำลังมีทิศทางการเคลื่อนไหวที่แข็งแกร่ง
การทำงาน: นักวิเคราะห์จะใช้ เครื่องมือวิเคราะห์โมเมนตัม (Momentum Indicators) เช่น RSI, MACD หรือ Stochastic Oscillator เพื่อประเมินว่าราคาของสินทรัพย์มีแนวโน้มที่จะเร่งตัวขึ้นหรือลดลง
ค่าโมเมนตัมที่มากกว่า 100: บ่งชี้ว่าราคาปิดของแท่งเทียนปัจจุบันสูงกว่าแท่งเทียนในอดีต ซึ่งหมายถึงแนวโน้มขาขึ้น
ค่าโมเมนตัมที่น้อยกว่า 100: บ่งชี้ว่าราคาปิดต่ำกว่าแท่งเทียนในอดีต แสดงถึงแนวโน้มขาลง
สรุปง่ายๆ: Momentum analysis คือการดูว่าตลาดกำลัง "ไปเร็ว" หรือ "ช้าลง" ในทิศทางใด เพื่อเข้าซื้อหรือขายตามกระแสที่กำลังแข็งแกร่ง
กลยุทธ์ การใช้ momentum ที่สำคัญได้แก่
- กลยุทธ์ Price Momentum : ซื้อหุ้นที่มีผลตอบแทน 6 เดือนย้อนหลังสูงสุด 30 เปอร์เซ็นไทล์แรก โดยมีการปรับพอร์ตโฟลิโอทุกๆ 6 เดือน โดยแนวคิดหลักของกลยุทธ์การลงทุนนี้คือการคำนวนค่า Momentum ของหุ้นแต่ละตัวในเชิงเปรียบเทียบหรือที่เรียกว่า Relative Momentum และเลือกลงทุนในกลุ่มหุ้นที่มีผลตอบแทนย้อนหลังสูงสุด
- กลยุทธ์ Industry Momentum : ซื้อหุ้นที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีสูงสุด 30 เปอร์เซ็นไทล์แรก (ในกรณีตลาดหุ้นไทยเรามีกลุ่มอุตสาหกรรมทั้งหมด 8 กลุ่มตามการแบ่งของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย) โดยมีการปรับพอร์ตโฟลิโอทุกๆ 1 ปี ซึ่งแนวคิดนี้คือการคำนวนค่า Momentum ในเชิงเปรียบเทียบตามกลุ่มอุตสาหกรรม (Relative Industry Momentum) และเลือกลงทุนเฉพาะหุ้นที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีผลตอบแทนย้อนหลังสูงสุด
- กลยุทธ์ 52 Week High : ซื้อหุ้นที่ราคา 1 เดือนก่อนหน้านี้ใกล้เคียงราคาสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ที่ผ่านมามากที่สุดโดยมีการปรับพอร์ตโฟลิโอทุกๆ 1 ปี โดยแนวคิดของกลยุทธ์นี้คือการยึดระยะทางจากจุดสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ของหุ้นแต่ละตัวเป็นตัวชี้วัด Momentum หรือที่เรียกว่า Absolute Momentum และเลือกลงทุนในหุ้นที่ราคาอยู่ใกล้จุดสูงสุด 52 สัปดาห์ของปีที่ผ่านมามากที่สุด
เมื่อศึกษาหลักการแล้ว จึงทำการเรียนรู้การใช้งานระบบ efin StockPickUp
เป็นโปรแกรมที่ใช้งานบนคอมพิวเตอร์ (PC) สำหรับช่วยวิเคราะห์ด้านการลงทุนในตลาดหุ้นและอนุพันธ์ โดยมีฟังชั่นที่สำคัญดังนี้ การวิเคราะห์ด้วยกราฟเทคนิค ซึ่งมี Indicator มากกว่า 130 ชนิดรวมถึงมี Indicator การนำข้อมูลด้านปัจจัยพื้นฐานมานำเสนอในรูปแบบที่หลากหลาย รวมไปถึงนำไปประยุกต์กับเครื่องมือค้นหาหุ้น ที่จะช่วยให้นักลงทุน ค้นหาหุ้นที่ต้องการ ใช้ได้ไม่ยากทั้งหุ้นที่ควรซื้อ และ หุ้นที่ควรขาย
การนำข้อมูลสถิติด้านการซื้อขายที่เกิดขึ้นมาสร้างเป็นฟังก์ชั่นที่ช่วยให้แง่คิดในมุมต่างๆ ทั้งการเก็งกำไร หรือ การลงทุนระยะยาว
การใช้โปรแกรม efin StockPickUp ทำให้สามารถวิเคราะห์ทางเทคนิค เพื่อกำหนดหาหุ้นที่มีค่า momentum มากและกำหนดหาหุ้นที่เหมาะสมได้